ReadyPlanet.com
วัดห้วยมงคล article

วัดห้วยมงคล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ประดิษฐานหลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ที่สุดในโลก

ติดต่อวัดห้วยมงคล หมายเลขโทรศัพท์ 081-858-6661

 

 

จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จัดเป็นจังหวัดที่ยาวติดอันดับต้นๆของประเทศไทย การที่จะเดินทางผ่านจังหวัดประจวบคีรีขันธ์นั้นใช้เวลาในการเดินทางนานมาก หลายๆท่านจึงมองว่าเป็นเรื่องที่น่าเบื่อ หลับแล้วหลับอีกตื่นมากี่อีกทีก็ยังอยู่ในเขตจังหวัดประจวบคีรีขันธ์

 

 

 

 

 

  ถ้าไม่อยากเบื่อจะต้องทำอย่างไร ..? เราก็ต้องเที่ยวตั้งแต่เพื่อพักรถและยืดเส้นยืดสายตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์สิครับ เพราะจังหวัดนี้ไม่ได้มีดีที่ความยาวเพียงอย่างเดียว (แถมยังเป็นจังหวัดที่แคบที่สุดอีกด้วย) เพราะจังหวัดประจวบคีรีขันธ์นั้น มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย และแต่ละสถานที่นั้นก็น่าสนใจมากๆ ซึ่งผมจะแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว ซึ่งอยู่ในอำเภอหัวหินซึ่งเป็นอำเภออยู่เหนือสุดของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และแน่นอน สถานที่แห่งนั้นก็คือวัดห้วยมงคลนั่นเอง

 

 

 

 

 

   วัดห้วยมงคล อยู่ในเขตอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งปัจจุบันได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากมาย เพราะที่วัดห้วยมงคลเป็นที่ประดิษฐานรูปเหมือนหลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งแต่เดิมใช้ชื่อว่า “วัดห้วยคต” ตั้งอยู่ในชุมชนบ้านห้วยคต ตำบลทับใต้ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ต่อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระราชทานนามใหม่จากเดิมห้วยคต เปลี่ยนเป็นห้วยมงคล ซึ่งปัจจุบันใช้เป็นทั้งชื่อหมู่บ้านห้วยมงคล วัดห้วยมงคล โรงเรียนห้วยมงคล และโครงการต่างๆ อีกมากมาย

 

 

 

 

 

   เป็นเวลากว่า 40 ปีแล้วที่หมู่บ้านห้วยมงคล เป็นที่ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเสด็จมาเยี่ยมประชาชน ด้วยโครงการต่างๆที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านเพื่อสร้างความมั่นคงให้กับพสกนิกรให้มีฐานะดีขึ้น ประชาชนมีสุขกันทั่วหน้าและโครงการต่างๆ ก็ดำเนินไปได้ด้วยดี เพราะมีส่วนราชการให้การดูแล รวมทั้งทรงอุปถัมภ์วัดห้วยมงคลไว้ให้เป็นที่พึ่งทางใจสำหรับชาวบ้าน
    ต่อมาพระครูปภัสรวรพินิจ หรือพระอาจารย์ไพโรจน์ ปภัสสโร เจ้าอาวาสวัดห้วยมงคลองค์ปัจจุบัน ซึ่งเป็นพระนักพัฒนาซึ่งเป็นที่เคารพของคนในชุมชนบ้านห้วยมงคล และพลเอกวิเศษ คงอุทัยกุล รองสมุหราชองครักษ์ได้มีดำริที่จะสร้าง “หลวงพ่อทวด” องค์ใหญ่ที่สุดในโลกเพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ รวมทั้งเผยแพร่และสืบทอดพระพุทธศาสนาอีกทั้งให้เป็นที่เคารพสักการบูชาและเป็นที่พึ่งทางใจของเหล่าพุทธศาสนิกชน

 

 

 

 

 

    ด้วยเรื่องราวปาฏิหาริย์ของหลวงพ่อทวด (เหยียบน้ำทะเลจืด) ที่พุทธศาสนิกชนในภาคใต้ให้ความเคารพเลื่อมใสมาเป็นเวลานาน และรู้จักกันเป็นอย่างดี จึงก่อเกิดการร่วมมือร่วมใจจากหลายองค์กรทั้งทางภาครัฐและเอกชนในการสร้างประติมากรรมองค์จำลองหลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ที่สุดในโลก โดยกาลนี้สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ทรงเสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตร เททองหล่อองค์หลวงพ่อทวด เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม พุทธศักราช 2547 และพระราชทานพระราชานุญาตให้คณะกรรมการจัดสร้างอันเชิญพระนามาภิไธยย่อ ส.ก. ขึ้นประดิษฐานที่หน้าองค์รูปหล่อองค์หลวงพ่อทวด

 

 

 

 

 

    บัดนี้รูปหล่อหลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ที่สุดในโลกซึ่งหล่อด้วยโลหะผสม หน้าตักกว้าง 9.9 เมตร สูง 11.5 เมตร บนฐานสูง 3 ชั้น ชั้นล่างกว้าง 70 เมตร ยาว 70 เมตร ได้จัดสร้างเสร็จสมบูรณ์เป็นที่เรียบร้อย พร้อมที่จะให้พุทธศาสนิกชนทั่วทั้งประเทศได้เดินทางมานมัสการกราบไหว้ เคารพสักการะ และมีการปรับปรุงเส้นทางให้สามารถเข้าถึงวัดห้วยมงคลซึ่งเป็นเส้นทางที่สะดวกต่อการคมนาคมในปัจจุบัน

 

 

 

 

 

    นอกจากนี้ที่วัดห้วยมงคลแห่งนี้ยังมีหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ซึ่งแกะสลักจากได้ตะเคียนทองขนาดใหญ่อายุกว่า 1000 ปี ที่พบฝังอยู่ในทรายใต้แม่น้ำยม จังหวัดแพร่ลึกกว่า 10 เมตร ชาวบ้านเชื่อกันว่าต้นไม้ที่มีแก่นสูง 1 คืบขึ้นไปจะมีเทวดาสถิตอยู่เพื่อดูแลปกป้องคุ้มครองคนที่มาสักการบูชา เมื่อนำต้นตะเคียนทองมาทำรูปเคารพ เช่นแกะเป็นหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืดจึงมีอนุภาพและความศักดิ์สิทธิ์เป็นทวีสิทธิ์ ดลบันดาลให้ทุกท่านประสบแต่ความสุขความเจริญปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ

 

 

 

 

 

 

ประวัติหลวงพ่อทวด เหยียบน้ำทะเลจืด

 

 

 

 

 


     หลวงพ่อทวด หรือ สมเด็จพะโค๊ะ มีนามเดิมว่าปู เป็นบุตรนายหู นางจัน วัน เดือน ปี เกิดของเด็กชายปู บ้างว่าเป็นเดือน 4 ปีมะโรง ตรงกับ พ.ศ. 2125 บ้างว่าปี พ.ศ. 990 ฉลู สัมฤทธิศก บ้างว่า พ.ศ. 2131 โดยอนุมาน เข้าใจว่าคงเป็นปลายสมัยมหาธรรมราชา อาจเป็นปี พ.ศ. 2125 หือ 2131 ตอนเด็กชายปูยังเป็นทารก มีเรื่องเล่าเป็นปฏิหาริย์เอาไว้ว่าหลังจากนางจันเลิกอยู่ไฟก็ออกเกี่ยวข้าวทันที วันหนึ่งนางไปเก็บข้าวก็เอาบุตรให้นอนในเปลใต้ต้นหว้างูบองสลาขึ้นมานอนบนเปลนั้น มารดา บิดาเห็นตกใจ งูก็เลื้อยหายไป แต่ได้คายแก้ววิเศษเอาไว้ให้ เมื่อเด็กชายปูอายุได้ 7 ขวบ บิดาได้นำไปฝากกับท่านสมภารจวงซึ่งเป็นพี่ชายของนางจันผู้เป็นมารดา (หลวงลุง) วัดกุฏิหลวง (วัดดีหลวง) เพื่อให้เล่าเรียนหนังสือ เด็กชายปูมีความเฉลียวฉลาดมากสามารถเรียนหนังสือขอมและไทยได้อย่างรวดเร็ว ครั้นอายุได้ 10 ขวบ ก็บวชเป็นสามเณรและบิดาได้มอบแก้ววิเศษให้เป็นของประจำตัว ต่อมาสามเณรปูได้ไปศึกษาต่อกับพระชินเสนที่วัดสีหยัง (สีคูยัง) ซึ่งเป็นพระอาจารย์ที่เชี่ยวชาญและมีชื่อเสียงมากมาจากกรุงศรีอยุธยา เมื่อได้อายุ 20 ปีบริบูรณ์ ได้เดินทางไปศึกษาต่อที่นครศรีธรรมราช ณ สำนักพระมหาเถระปิยทัสสี ต่อมาก็ได้เข้ารับการอุปสมบท มีฉายาว่า “ราโมธมฺมิโก” แต่คนทั่วไปเรียกว่า “เจ้าสามีราม” เจ้าสามีรามได้ศึกษาอยู่ที่วัดท่าแพ วัดสีมาเมือง และวัดอื่นๆอีกหลายวัด

 

 

 

 

 


    เมื่อเห็นว่าการศึกษาที่นครศรีธรรมราชเพียงพอ จึงได้ขอโดยสารเรือสำเภาเดินทางไปกรุงศรีอยุธยา ขณะเดินทางถึงเมืองชุมพรเกิดคลื่นลมทะเลปั่นป่วนเรือไม่สามารถแล่นฝ่าคลื่นลมไปได้ ต้องทอดสมออยู่ถึง 7 วัน ทำให้เสบียงอาหารและน้ำหมด บรรดาลูกเรือจึงตั้งข้อสงสัยว่าการที่เกิดอาเพศในครั้งนี้เป็นเพราะเจ้าสามีราม จึงตกลงใจส่งเจ้าสามีรามขึ้นเกาะ ได้นิมนต์ให้เจ้าสามีรามลงเรือมาดขณะที่นั่งอยู่ในเรือมาดนั้นท่านได้ห้อยเท้าแช่ลงไปในน้ำทะเล ก็บังเกิดอัศจรรย์น้ำทะเลบริเวณนั้นเป็นประกายแวววาวโชติช่วงเจ้าสามีราม จึงบอกให้ลูกเรือตักน้ำขึ้นมาดื่มก็รู้สึกว่าเป็นน้ำจืดจึงช่วงกันตักไว้จนเพียงพอ นายสำเภาจึงนิมนต์ให้ขึ้นสำเภาอีก และตั้งแต่นั้นเจ้าสามีรามเป็นชีต้น หรืออาจารย์ของเจ้าสำเภาอิน สืบมา

 

 

 

 

 

   อภินิหารที่ท่านสามีรามเหยียบน้ำทะเลจืดเป็นที่โจษขานมาถึงบัดนี้และเหตุการณ์ตอนนี้เล่าเสริมพิสดารขึ้นว่า ตอนแรกนายอินเชื่อมั่นว่าพระสามีรามเป็นกาลกิณีเรือจึงต้องพายุเพราะก่อนมาไม่เคยเป็น เมื่อคลื่นลมสงบจึงคิดจะเอาเจ้าสามีรามปล่อยเกาะ แต่ครั้นเห็นปาฏิหาริย์จึงขอขมาโทษ

 

 

 

 

 

    ในยุคนี้และสมัยนี้ เกือบจะไม่มีชาวไทยคนใดเลย ที่จะไม่เคยได้ยินชื่อหรือได้ฟังกิติศัพท์เล่าลือเกี่ยวกับ ความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อทวด เหยียบน้ำทะเลจืด ความศักดิ์สิทธิ์อันนี้ บ้างก็เป็นเรื่องของความคลาดแคล้วจากอุบัติเหตุสยองจากไฟไหม้หรือจากภัยพิบัติ นานัปการ และหลวงพ่อทวดมิใช่จะคุ้มครองเฉพาะด้านอุบัติเหตุเท่านั้น แม้แต่ในทางโชคลาภ ก็ให้ผลอย่างดีที่สุด ดังที่ได้ประจักษ์แก่ผู้เลื่อมใสมาแล้ว

 

 

 

 

 

    (คัดลอกจากเอกสารวัดห้วยมงคล ตำบลทับใต้ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์)

 

 

 

ขอขอบคุณข้อมูลวัดห้วยมงคล จาก  http://www.oceansmile.com 

 




สถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ แหล่งท่องเที่ยวประจวบคีรีขันธ์ จ.ประจวบฯ

เกาะทะลุ ไข่มุกแห่งทะเลอ่าวไทย !! article
พักผ่อนหย่อนใจที่หาดบางเบิด article
เกาะร้านเป็ด เกาะร้านไก่
อุทยานราชภักดิ์ article
น้ำตกไทรคู่ article
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำหว้ากอ article
กินปูห้อยขา เกาะยอ ชุมพร article
พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ
น้ำตกห้วยยาง article
เนินสันทราย สิ่งมหัศจรรย์ของไทย article
ด่านสิงขร แคบสุดในแผ่นดินสยาม
น้ำตกทาร์ซาน หรือน้ำตกไชยราช article
ท่องเที่ยวหาดผาแดง article
ฟาร์มบางเบิด สถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตร article
วัดเขาถ้ำม้าร้อง article
เขาบางเบิด article
วัดแก้วประเสริฐ article
ถ้ำบางเบิด article
เพลินวาน หัวหิน article
เกาะเวียง
เกาะพระ
อ่าวประจวบ
เขาล้อมหมวก
ศาลหลักเมืองประจวบ
โครงการพัฒนาส่วนพระองค์ ณ บางเบิด article
อุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ article
วังไกลกังวล article
ถ้ำเพชรทรายทอง หรือถ้ำอโนดาต article
เกาะในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ article