ReadyPlanet.com
เทคนิคการดำน้ำ article

บางเบิดรีสอร์ท นำเสนอเทคนิคการดำน้ำให้แก่ผู้สนใจไปดำน้ำดูปะการังที่เกาะทะลุ เกาะสิงห์

รูปแว่นตาดำน้ำ รูปเสื้อชูชีพ 

1. สำหรับคนที่ยังไม่เคยใช้หน้ากากและท่อหายใจ หรือคนที่ยังใช้ไม่ชำนาญ ให้เริ่มดังนี้

1.1 หลังจากที่เตรียมหน้ากากและท่อหายใจเรียบร้อย ตามข้อ 2.1 และ 2.2 แล้ว ให้เอาหน้ากากมาใส่ที่หน้ายังไม่ต้องคาบท่อ แล้วลองหายใจเข้าออกทางปากช้าๆ 20 ครั้ง เพื่อฝึกให้ชินกับการหายใจทางปาก

1.2 หลังจากนั้นให้เริ่มคาบ ท่อหายใจ แล้วเริ่มฝึกหายใจทางปากผ่านท่อนี้ช้าๆ 20 ครั้ง หรือจนกว่าจะคุ้นเคย เพื่อให้ชินกับการหายใจทางปากผ่านท่อหายใจ

1.3 ต่อจากนั้นลองเอาหน้าจุ่มในถังน้ำขนาดใหญ่ที่สามารถคว่ำหน้าลงไปได้ แล้วลองฝึกหายใจผ่านท่อช้าๆ อีก 20 ครั้งหรือจนกว่าจะคุ้นเคย เพื่อให้ชินกับการหายใจทางปากผ่านท่อหายใจบนผิวน้ำ หากไม่มีถังน้ำขนาดใหญ่ให้เดินลงไปลองที่ทะเลเลยครับ(ใส่ชูชีพไปด้วยนะ) เดินไปสักที่น้ำลึกประมาณ เอว-อก แล้วลองทำตามที่บอก ฝึกหายใจผ่านท่อช้าๆ บนผิวน้ำสัก 20 ครั้ง หรือจนกว่าจะชิน เมื่อคิดว่า OK แล้วให้ลองคว่ำตัวลงบนผิวนำเต็มที่ ยกขาให้ลอยจากพื้น แล้วลองหายใจผ่านท่อขณะตัวลอยน้ำเต็มที่ดูอีก 20 ที อาจให้คนช่วยจับตัวไว้หากกลัวน้ำพัด

1.4 ถ้าทำได้ทุกขั้นตอนแล้ว ให้ลองแหวกว่ายดูได้เลยคุณจะพบว่ามันไม่ยากเลย ลูกแมวว่ายนำไม่เป็นก็ยังสามารถดำน้ำได้

2. เทคนิคการ Clear น้ำออกจากหน้ากาก
บางครั้งเวลาเราดำน้ำไปอาจมีน้ำเข้ามาทางหน้ากากได้บ้าง จากการที่หน้ากากไม่พอดี หรือใส่สายรัดหลวมไป หรืออาจเพราะมีเส้นผมอยู่ในหน้ากาก ก็แก้ที่ต้นเหตุกันก่อน จะได้ไม่ต้องมา Clear น้ำออกจากหน้ากากบ่อยๆ การ Clear น้ำออกจากหน้ากาก มี 2 แบบขึ้นอยู่กับแบบของหน้ากาก

2.1 หน้ากากแบบไม่มี วาวล์ Clear น้ำ ตรงจมูก(ซึ่งหน้ากากส่วนใหญ่จะเป็นแบบนี้)
ให้เริ่มจากการปรับท่าทางจากคว่ำหน้าในน้ำมา ให้ตั้งตัวตรงศรีษะพ้นน้ำ หรือจะใช้วิธีพลิกตัว(จะทำให้เราหงายท้อง เป็นท่าที่เราจะใช้พักตอนลอยอยู่ในทะเล)ขึ้นทางด้านซ้าย(ด้านที่ติด Snorkel) แล้วเผยอหน้ากากด้านใต้จมูกขึ้นเล็กน้อย แล้วหายใจออกน้ำก็จะออกจากหน้ากาหมดแล้วครับ เห็นไหมครับง่ายมากเลย วิธีนี้เป็นวิธีมาตรฐานสามารถใช้ Clear น้ำออกจากหน้ากากทั้งแบบมีวาวล์และไม่มีวาวล์

2.2 หน้ากากแบบมี วาวล์ Clear น้ำ ตรงจมูก(หน้ากากแบบนี้ไม่ค่อยพบเห็นบ่อยเหมือนแบบแรก อาจเป็นเพราะราคาที่แพงกว่าเล็กน้อย และรูปทรงที่ไม่ค่อยสวยงามนัก)
หน้ากากแบบนี้มีข้อดีตรงที่สามารถ Clear น้ำออกได้ง่ายกว่าแบบแรก ไม่จำเป็นต้องเงยหน้ามาพ้นน้ำก็สามารถ Clear น้ำออกได้ไม่เสียจังหวะในการชื่นชม หมู่มวลปลาและ ธรรมชาติใต้น้ำ ผมจึงชอบใช้หน้ากากแบบนี้มาก วิธีการ Clear น้ำออกของหน้ากากแบบนี้ก็คือ ถ้าหากมีน้ำเข้าไปในหน้ากากระหว่างดำน้ำ ให้เราพยายามกลิ้งน้ำมาลงตรงวาวล์นั้นแล้ว หายใจออกทางจมูก เบาน้ำก็จะออกไปหมดแล้วครับ หรือใครไม่ถนัดวิธีนี้จะไปใช้วิธีมาตรฐานแบบแรกก็ได้ไม่ว่ากัน

3. เทคนิคการ Clear น้ำออกจากท่อหายใจ
น้ำสามารถเข้าท่อได้ 2 ทางคืออาจถูกคลื่นซัดเข้ามาทางปลายท่อ หากเราจัดตำแหน่งของท่ออยู่ต่ำเกินไป หรือบริเวณที่อยู่ติดกับปากเราหากเราเผลออ้าปากในน้ำ ท่อหายใจก็มี 2 แบบเช่นเดียวกับหน้ากากคือแบบมีวาวล์ช่วย Clear น้ำตรงด้านใต้ กับแบบที่ไม่มีวาวล์ แต่เทคนิคการ Clear น้ำ ออกจากท่อจะเหมือนกันคือ ใช้การเป่าแบบกระชาก(เป่าแรงๆและเร็วๆ) น้ำจะออกจากปลายท่อ หรือ วาวล์ด้านล่าง ดังนั้นแบบไม่มีวาวล์ จะ Clear น้ำได้ยากกว่าเนื่องจากน้ำออกได้ทางเดียวคือปลายท่อ ดังนั้นคนที่เป่าไม่ดีหรือไม่มีแรงอาจต้องเป่ามากกว่า 1 ที ส่วนแบบมีวาวล์นั้นเวลาเป่าน้ำจะออกได้ 2 ทางทั้งปลายท่อด้านบน และวาวล์ด้านล่างทำให้ Clear น้ำได้ง่ายกว่า แค่เป่าทีเดียวก็น้ำอาจจะออกหมดแล้วแนะนำว่าถ้าจะซื้อ Snorkel ควรซื้อแบบมีวาวล์เท่านั้นราคาก็แพงกว่าแบบไม่มี วาวล์แค่ 100 – 200 บาท เท่านั้น

หลักการ Clear น้ำออกจากท่อ
- กรณีเราต้องการให้น้ำเข้าท่อแบบตั้งใจ
บางครั้งเราอาจอยากจะดำลงไปใต้น้ำ(กรณีไม่ใส่ชูชีพ) เรารู้ว่าน้ำจะต้องเข้าท่อจนเต็มแน่ ดังนั้นวิธีนี้ก่อนดำลงไปให้หายใจเข้า-ออกลึกๆ บนผิวน้ำสัก 3 ครั้ง(อย่าเกินนี้นะ อันตราย) เมื่อหายใจเข้าครั้งสุดท้ายจนสุดแล้วจึงดำลงไปใต้น้ำ (ก่อนดำลงน้ำต้องอยู่ในช่วงหายใจเข้าเท่านั้นนะ อย่าหายใจออกหมดแล้วค่อยดำล่ะ เดี๋ยวโผล่ขึ้นมาไม่มีแรงเป่ากระชากน้ำออกจากท่อสำลักน้ำแน่ๆ) อันนี้จะอยู่ใต้น้ำได้นานแค่ไหนขึ้นอยู่กับคนแล้วครับ ว่าอึดแค่ไหนต้องฝึกเอาเอง (ปกติผมได้ประมาณ 60-80 วิ.) ก่อนโผล่ก็มองดูข้างบนและรอบข้างให้ดีว่ามีสิ่งกีดขวางใดๆหรือป่าว แล้วจึงลอยตัวขึ้น พอศีรษะหรือปลายท่อพ้นน้ำแล้วก็ให้เป่ากระชากน้ำออกจากท่อแรงๆทันที ถ้าแรงดีเป่าทีเดียวก็หมด แต่ถ้าแรงไม่ดีอาจต้องมีเป่า ดาบ 2 ครับ ซึ่งตอนนี้แหละทุกคนต้องมีสมาธิมากๆ เพราะเราออกแรงเป่าไปแล้ว(หายใจออกไปแล้ว) ตอนนี้เราก็จำเป็นต้องหายใจเข้าถ้าใครไม่มีสมาธิ จะรีบหายใจ เอาอากาศเข้าไปเร็วๆ จะทำให้น้ำที่หลงเหลืออยู่ในท่อกระฉอกเข้าไปในหลอดลมทำให้สำลักทันที ถ้าควมคุมสติไม่ได้คราวนี้ก็ตกใจกันไปใหญ่ ถ้าหากเกิดกรณีต้องลงดาบ 2 นั้นขอให้ตั้งสติแล้วพยายามสูดหายใจเข้าผ่านท่ออย่างระวังและช้าๆที่สุด จนเต็มปอดแล้วทำการเป่ากระชากน้ำออกไปอีกที แค่นี้แหละครับ แรกๆ หากจะ Skin Dive ลงไปแบบนี้ อย่าฝืนกลั้นหายใจนานนัก เผื่ออากาศไว้แก้ปัญหาที่ผิวน้ำบ้างจะดีกว่า วิธีที่จะสังเกตว่าต้องมีดาบ 2 หรือไม่ ให้ฟังดูว่าหลังจากที่เป่าออกไปครั้งแรกแล้วพอหายใจเข้า มีเสียงน้ำขลุกขลักในท่อบ้างหรือไม่ถ้ายังมีเสียงขลุกขลักแสดงว่ายังมีน้ำหลงเหลืออยู่ในท่อ ให้หายใจเข้าช้าๆอย่างระวังเพื่อเตรียมดาบ 2 ได้เลย

รูปท่อหายใจ

- กรณีที่น้ำเข้าท่อแบบไม่ตั้งใจ
กรณีนี้มักเกิดจากการติดตั้งท่อในตำแหน่งที่ไม่ถูกต้องหรือไม่เหมาะสม เช่นต่ำเกินไป หรือปลายท่อลู่ไปข้างหน้า(ที่ถูกปลายท่อต้องตั้งฉากกับผิวน้ำหรือลู่ไปทางด้านหลังเล็กน้อยขณะที่ใช้งานอย่างถูกต้อง / การใช้งานที่ถูกต้องคือให้มองไปข้างหน้าประมาณ 45 องศา หากมากกว่า 45 องศาจะทำให้เมื่อยคอ แต่ไม่ใช่คว่ำหน้ามองตรงดิ่ง 90 องศาไปที่พื้นนะครับอย่างนั้นก็เกินไป) ทำให้คลื่นซัดหรือกระฉอกเข้ามาได้ ซึ่งส่วนใหญ่การสำลักจะมาจากแบบนี้มากกว่าแบบแรก เพราะแบบแรกเรามีการเตรียมตัวก่อน แต่ถ้าน้ำเข้าท่อแบบไม่รู้ตัวแบบนี้ถ้าเข้าในขณะที่เราหายใจเข้าไปบ้างแล้วก็ยังพอทำเนา เพราะยังมีอากาศที่จะใช้ดันน้ำออกจากท่อได้บ้าง แต่ถ้าน้ำเกิดไปเข้าท่อขณะที่เราหายใจออกจนสุดแล้วนี่ ก็ต้องเตรียมตัวสำหรับดาบ 2 ตั้งแต่ยังไม่ลงดาบแรกเลย อิอิ

4. หากต้องการพักขณะที่ลอยอยู่กลางทะเล
ให้พลิกตัวขึ้นไปทางด้านซ้าย(ด้านที่ติดท่อหายใจไว้) ตัวเราจะอยู่ในลักษณะนอนหงายโดยอัตโนมัติ หากยังไม่หงายให้ลองปรับลักษณะร่างกายตอนนั้นสักเล็กน้อยก็น่าจะได้ เมื่อหงายได้แล้วก็ไม่ต้องตีแขนตีขาก็ได้มันจะไม่จมแล้วครับ หรือใช้นกหวีดเป่าเรียกเรือก็ได้

เครดิต http://www.savekohsurin.com/webboard/topic.php?topicid=109